• เดลล์ อัพเดต ความสามารถด้านการรักษาความปลอดภัยของเอนด์พอยท์ ตอกย้ำจุดยืนของการเป็นพีซี คอมเมอร์เชียลที่มีความปลอดภัยที่สุดในโลก
• แล็ปท็อป Latitude ที่รีเฟรชใหม่ ให้ผลิตผลของงานได้อย่างโดดเด่น ด้วยการรักษาความปลอดภัยที่ดีที่สุด และมีระบบบริหาจัดการบิวด์อินมาพร้อมเสร็จสรรพ ทั้งหมดมาในลุคการออกแบบที่สวยงามที่คนทำงานจะถือได้อย่างภาคภูมิใจ
• เดสก์ท็อป OptiPlex ใหม่ และ All-in-Ones สร้างด้วยขุมพลังที่สืบทอดมายาวนาน ให้ทั้งความน่าเชื่อถือ พร้อมความสามารถรอบด้าน
• จอมอนิเตอร์ P-series ในรูปลักษณ์ที่บางอย่างเหลือเชื่อ ให้ประสบการณ์ด้านการชมที่ไร้รอยต่ออย่างแท้จริง พร้อมการตั้งค่าจอดิสเพลย์ได้หลากหลายแบบ
ผู้นำธุรกิจทั่วโลก กำลังพยายามรักษาสมดุลของเป้าประสงค์ 2 ประการ คือการทำให้ธุรกิจดำเนินไปอย่างราบรื่นด้วยการป้องกันปัญหาในเรื่องความปลอดภัยและอุปสรรคที่ขัดขวางผลิตผลของงาน ในขณะเดียวกันก็ก้าวไปสู่ศักยภาพที่น่าทึ่งของนวัตกรรมใหม่ๆ อาทิปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI, แมชชีน เลิร์นนิ่ง และ VR/AR โดยปัจจุบัน เดลล์ ได้แนะนำโซลูชันใหม่ครอบคลุมสายผลิตภัณฑ์พีซีเพื่อธุรกิจ (Commercial PC) ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้องค์กรธุรกิจทุกขนาดสามารถรักษาสมดุลที่สำคัญทั้งสองประการ โดยนอกเหนือจากการเป็นพีซีเชิงธุรกิจที่มีความสามารถด้านการจัดการและมีความปลอดภัยสูงที่สุดในโลกแล้ว เดลล์ ยังได้อัพเดต ฟีเจอร์ในสายผลิตภัณฑ์คอมเมอร์เชียล ที่ให้ความล้ำหน้าในเรื่องการออกแบบที่ฉลาดและทันสมัย ให้ผลิตผลของงานที่ดีเยี่ยม และให้ความยั่งยืนที่ตอบโจทย์ความจำเป็นของคนทำงานที่หลากหลายในทั่วโลกได้ครอบคลุมยิ่งกว่าที่เคย
“สำหรับลูกค้าหลายรายของเรา การทำงานไม่ใช่เรื่องของสถานที่ที่ต้องไปอีกต่อไป หากเป็นเรื่องของกิจกรรมที่ทำ” เจย์ ปาร์กเกอร์ ประธาน Client Product Group ของเดลล์ กล่าว “และบรรดาบริษัทที่ทำงานได้อย่างชาญฉลาด ที่ต้องการดึงดูดและผูกใจพนักงานที่มีศักยภาพสูงสุด ได้ตอบสนองความต้องการและความคาดหวังที่ก้าวหน้าของพนักงานเหล่านี้ โดยแผนกไอทีกำลังทำงานร่วมกับเดลล์ เพื่อสร้างกลยุทธ์ด้านเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มอำนาจและมอบความยืดหยุ่นให้บรรดาพนักงานเพื่อช่วยให้ทำงานได้สำเร็จลุล่วง ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนและเมื่อไหร่เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเหล่านี้ได้ดีที่สุด พร้อมกับช่วยรักษาความปลอดภัยข้อมูล และรักษาต้นทุนในการเป็นเจ้าของในระดับต่ำได้”
รักษาความปลอดภัยให้กับคนทำงานสมัยใหม่ เดลล์ ช่วยปกป้องข้อมูลทั้งที่ไม่มีการเคลื่อนไหวและอยู่ระหว่างการใช้งาน
ยุคของการรักษาความปลอดภัยสมัยใหม่ถูกกำหนดด้วยความจำเป็นในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล และเดลล์ได้มอบโซลูชันนวัตกรรมด้านความปลอดภัยซึ่งนอกจากจะช่วยรักษาความปลอดภัยข้อมูลที่เก็บไว้แล้ว ยังรวมถึงข้อมูลที่มีการใช้งานระหว่างการเดินทาง หรือไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม โดยเริ่มต้นจากอุปกรณ์ที่เชื่อถือได้ โดยสายผลิตภัณฑ์พีซีเพื่อการใช้งานเชิงธุรกิจทั้งหมดของเดลล์ล้วนมาพร้อมกับนวัตกรรมการรักษาความปลอดภัยในฮาร์ดแวร์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดที่รวมถึงโปรแกรม supply chain assurance ที่แข็งแกร่งมีประสิทธิภาพ บนแนวทางปฏิบัติที่ให้ผลดีที่สุดตั้งแต่แรกเริ่ม จนถึงการประกอบชิ้นส่วน ไปจนกระทั่งการส่งมอบให้กับลูกค้า ยิ่งกว่านั้น เดลล์ยังผนึกความแข็งแกร่งความเป็นผู้นำด้านการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและอุปกรณ์ปลายทางด้วยการเสริมประสิทธิภาพใหม่ให้กับ Dell Data Guardian และ Dell Encryption อีกด้วย
ขณะนี้ Dell Data Guardian ได้เพิ่มอการสนับสนุนสำหรับโครงสร้างในการจำแนกข้อมูลที่มีอยู่ในองค์กร ที่ช่วยให้การบังคับใช้งานและการควบคุมได้นอกเหนือเครือข่ายในบริษัท นอกจากนี้ Dell Data Guardian ยังช่วยปกป้องไฟล์ประเภทต่างๆ รวมทั้งแอปพลิเคชันที่พัฒนาเองในองค์กร (in-house) และแอปพลิเคชันต่าง ที่มีกรรมสิทธิ์ นอกเหนือจากไฟล์มาตรฐานของ Office และไฟล์ที่ใช้โดยทั่วไป เช่น PDF ขณะเดียวกัน องค์กรสามารถปกป้องไฟล์ที่มีความสำคัญที่สุดได้ด้วยการตั้งค่าในการอนุญาตการเข้าถึงทั้งภายในและภายนอกระบบนิเวศของไอที การเสริมลายน้ำบนหน้าจอเพื่อเพิ่มระดับในการรักษาความปลอดภัย และช่วยให้ควบคุมถึงการใช้ไฟล์และแชร์ไฟล์ได้
หลายองค์กรรักษาสภาพแวดล้อมด้านไอทีที่มีการทำงานหลายรูปแบบแตกต่างกัน จากการใช้พีซีหลายแบรนด์ ต่างรุ่น และต่างระบบปฏิบัติการ เพื่อช่วยให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลมีความปลอดภัยในสภาพแวดล้อมแบบผสมผสานเหล่านี้ Dell Encryption คือโซลูชันข้อมูลที่ไม่มีการเคลื่อนไหว (data-at-rest) ที่มีความยืดหยุ่น ที่ปัจจุบันมาพร้อมทางเลือกการเข้ารหัสตามไฟล์ (file-based) หรือเข้ารหัสดิสก์ทั้งหมด (full-disk encryption) หรือทั้งสองสำหรับโซลูชันการเข้ารหัสข้อมูลแบบคู่ นอกจากนี้ Dell Encryption ยังรวมถึงการสนับสนุนเพิ่มเติมในส่วนโปรแกรม Commercial Solutions for Classified (CSfC) ของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ (NSA) สหรัฐอเมริกา ที่กำหนดความต้องการในการเข้ารหัสข้อมูลสองชั้นเพื่อจัดการปัญหาภัยคุกคามที่เกิดขึ้นจากระบบคอมพิวเตอร์แบบควอนตัมที่ตามหลักทฤษฎีสามารถหลีกเลี่ยงการเข้ารหัสลับแบบ AES 256 แบบเดิมได้ Dell Encryption Personal edition เป็นโซลูชันการเข้ารหัสเฉพาะไฟล์เพียงหนึ่งเดียวจาก OEM ที่ได้รับการรับรองสำหรับการใช้งานในระบบการรักษาความปลอดภัยมั่นคงแห่งชาติ (National Security Systems) ผ่านหน่วยงาน National Security Systems ผ่าน National Information Assurance Partnership (NIAP)
การผสมผสานกันของนวัตกรรมด้านการออกแบบกับประสิทธิภาพที่ไม่มีใครเทียบได้คือเหตุผลที่ว่าทำไม Dell Precision จึงเป็นผู้ให้บริการเวิร์กสเตชันอันดับ 1 ทั่วโลก และที่จริงแล้ววิชวลเอฟเฟคของภาพยนตร์ 5 ใน 7 เรื่องที่ชนะรางวัล Academy Award ล่าสุดมาจากการใช้เครื่องเวิร์กสเตชัน Precision ในการเรนเดอร์สเปเชียล เอฟเฟคได้อย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่งรวมไปถึงภาพยนตร์ที่ชนะรางวัลในปีนี้อย่าง Bladerunner 2049 ด้วย และในครั้งนี้ เครื่องโมบาย เวิร์กสเตชั่นที่ทรงพลังที่สุดในโลกได้รับการออกแบบใหม่ให้บางขึ้น เบาลง มีขนาดเล็กยิ่งขึ้น และพร้อมสำหรับการใช้งาน VR (“Ready for VR”) ผสานรวมประสิทธิภาพสูงสุด และความคล่องตัวสูงสุดในเรื่องโมบิลิตี้
Dell Precision 7730 และ 7530 โมบาย เวิร์กสเตชั่น มอบผลลัพธ์ที่ให้ความพิเศษเหนือชั้น ด้วยพลังการประมวลผลของโปรเซสเซอร์ 8th Gen Intel® Core™ และ Xeon® พร้อมกราฟิกการ์ดระดับมืออาชีพ AMD Radeon WX และ NVIDIA Quadro® และหน่วยความจำชั้นนำของอุตสาหกรรม SuperSpeed 3200MHz และกำลังความสามารถของหน่วยความจำที่ใหญ่ที่สุดสำหรับโมบาย เวิร์กสเตชันที่สูงถึง 128GB ทั้งนี้ Dell Precision 7530 คือโมบาย เวิร์กสเตชันที่พร้อมรองรับ VR ขนาด 15 นิ้วตัวแรกของอุตสาหกรรม เครื่องโมบาย เวิร์กสเตชันทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับเทคโนโลยีชั้นนำที่พร้อมรับมือกับชิ้นงานสร้างสรรค์ที่ซับซ้อน เครื่อง Precision 7530 ให้ประสิทธิภาพที่เหนือกว่าด้วยกำลังความจุ PCIe SSD สตอเรจขนาดใหญ่ที่สุดที่สูงถึง 6TB สำหรับโมบาย เวิร์กสเตชันขนาด 15 นิ้ว ขณะที่เครื่องรุ่น 7730 ช่วยให้การใช้งานในรูปแบบใหม่ อาทิ AI หรือการพัฒนาการเรียนรู้ของเครื่องจักร (machine learning) และระบบวินิจฉัยในส่วน edge (edge inference systems)
Dell Precision 5530 2-in-1 คือเครื่องโมบาย เวิร์กสเตชันแบบ 2-in-1 ที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก ที่ให้ประสิทธิภาพการทำงานที่คนทำงานต้องการเพื่อการสร้างสรรค์และแก้ไขคอนเทนท์มัลติมีเดียบนเครื่องที่ออกแบบมาได้บางอย่างน่าเหลือเชื่อและสวยงาม บานพับที่ปรับได้ 360 องศาช่วยให้สามารถรองรับการทำงานได้ในหลายรูปแบบ ซึ่งรวมถึงการรองรับระบบสัมผัสและการใช้งานปากกา จอแสดงผลเน็กซ์เจน 4K Ultra HD แบบ InfinityEdge ช่วยให้ผู้ใช้สามารถมั่นใจได้ว่าชิ้นงานที่สร้างขึ้นจะแสดงรายละเอียดที่น่าทึ่งและให้ความสมจริงที่สุด โดย Dell Premium Pen ให้ความไวต่อน้ำหนักในการจรดปากกาได้อย่างแม่นยำ (4,096 pressure points) มีฟังก์ชันรองรับระดับความเอียงในการใช้งาน และให้ความหน่วงต่ำ เพื่อประสบการณ์ใช้งานที่ใกล้เคียงกับการสเก็ตช์งานบนกระดาษมากที่สุด การออกแบบคีย์บอร์ด MagLev แบบใหม่ ช่วยลดความหนาของแป้นพิมพ์ โดยไม่กระทบกับปุ่มทางลัด (shortcuts) หลักๆ บนคีย์บอร์ด ในส่วนเวิร์กโฟลว์เพื่อการสร้างคอนเทนท์ และ Ultra-thin GORE™ Thermal Insulation ที่ช่วยรักษาความเย็นในระบบในขณะที่ให้ประสิทธิภาพการทำงานในระดับเวิร์กสเตชัน
Dell Precision 5530 คือโมบาย เวิร์กสเตชันขนาด 15 นิ้วที่เล็กที่สุดของเดลล์ ให้ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมด้วยหน้าจอ 4K Ultra HD ยุคเน็กซ์เจน แบบ InfinityEdge ที่ให้ค่าความต่างของสีที่ดียิ่งขึ้น รองรับระบบการสัมผัส และคุณภาพของภาพด้วยตัวเลือกการแสดงผล IGZO 4 ใหม่ ด้วยพลังการทำงานที่สูงยิ่งขึ้นจากรุ่นก่อนหน้านี้ เครื่องโมบาย เวิร์กสเตชั่นบางและเบาที่ขายดีที่สุดในอุตสาหกรรมมีน้ำหนักเพียง 3.9 ปอนด์และให้กราฟิกระดับมืออาชีพยุคเน็กซ์เจน NVIDIA Quadro® P2000 ด้วยความเร็วของหน่วยความจำ 2666MHz ที่เพิ่มขึ้นถึง 32GB ผู้ใช้สามารถเร่งกระบวนการทำงานที่มีความซับซ้อนได้อย่างง่ายดาย และด้วย SSD สตอเรจ ที่มีพื้นที่ถึง 4TB ผู้ใช้สามารถเข้าถึง ถ่ายโอน และจัดเก็บไฟล์ 3D ภาพวิดีโอและไฟล์มัลติมีเดียขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่หาได้ยากจากเครื่องโมบาย เวิร์กสเตชันที่มีโครงร่างบางและเบาเช่นนี้ เครื่อง Dell Precision 3530 โมบาย เวิร์กสเตชั่นขนาด 15 นิ้วที่สามารถปรับแต่งตามความต้องการได้อย่างเต็มที่ มอบพลังของเครื่องเวิร์กสเตชั่นในราคาที่เทียบเคียงได้กับเครื่องพีซี มาพร้อม 8th Gen Intel® Core™ และ Xeon® โพรเซสเซอร์ยุคหน้า ความเร็วเมมโมรีสูงถึง 2666 MHz และกราฟิกระดับมืออาชีพ NVIDIA Quadro® P600 และด้วยแบตเตอรี่ 92 WHr และพอร์ตต่างๆ รวมทั้ง HDMI 2.0 Thunderbolt และ VGA ผู้ใช้จะคงความสามารถในการทำงานในขณะเคลื่อนที่และสร้างผลิตผลของงานได้อย่างดีเยี่ยม
สายผลิตภัณฑ์ของ Dell Latitude ได้รับการออกแบบมาเพื่อการสร้างผลิตผลของงานได้ตลอดวัน ในรูปลักษณ์ของฟอร์ม แฟคเตอร์ขนาดเล็กเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำงานได้ในทุกที่ แชสซีของ Dell Latitude 5491 และ 5591 ลดขนาดลง 30% จากตัวเครื่องสามรุ่นที่ผ่านมา และอัดแน่นด้วยความล้ำหน้าของเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ทำให้เครื่องแล็ปท็อปในตระกูลนี้เป็นเครื่องที่ทรงพลังที่สุดของ Latitude ในปัจจุบัน ด้วยพลังแบตเตอรี่ที่ยาวนานถึง 19 ชั่วโมง เครื่องแล็ปท็อปรุ่นใหม่ให้ทั้งพลังในการทำงาน ความสะดวกในการพกพา และแล็ปท็อปรุ่นใหม่เหล่านี้ให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้ถึง 19 ชั่วโมง ทำให้ผู้ใช้สามารถพกพาได้สะดวกและให้ความสามารถในการเชื่อมต่อระบบได้ตามที่ต้องการตลอดวันอันยาวนานในการประชุมต่อเนื่อง หรือในการเดินทางเที่ยวบินข้ามประเทศ เครื่องแล็ปท็อปดังกล่าว มาพร้อมโพรเซสเซอร์ 8th Gen Intel® Core™ (i5/i7) vPro (H-series) เมมโมรี 2666MHz สูงถึง 32GB กราฟิก NVIDIA พร้อม Thunderbolt™3 เป็นทางเลือก และระดับสตอเรจที่ให้ทางเลือกจากฮาร์ดไดร์ฟ ไปจนถึงสตอเรจแบบ Solid State
นอกจากนี้ระบบเหล่านี้ยังถูกสร้างขึ้นในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Legacy of Good Program ของเดลล์ โดยแล็ปท็อปแต่ละเครื่องบรรจุคาร์บอนไฟเบอร์ที่ทำจากของเสียไว้ภายในแชสซี โดยเดลล์ได้ใช้เวลามากกว่าหนึ่งทศวรรษในการทำงานกับวัสดุที่ยั่งยืนทั้งในผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ ตั้งแต่ปีพ. ศ. 2555 เป็นต้นมา เดลล์ได้รีไซเคิลวัสดุที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว และนำกลับมาใช้ใหม่ (post-consumer recycled materials) เป็นจำนวนมากกว่า 50 ล้านปอนด์ พร้อมทั้งให้คำมั่นที่จะรีไซเคิลวัสดุรีไซเคิลจำนวน 100 ล้านปอนด์เข้าสู่สายผลิตภัณฑ์ภายในปี 2563
ในฐานะของแล็ปท็อปเพื่อการใช้งานเชิงธุรกิจที่สามารถจัดการได้ และมีความปลอดภัยที่สุดในโลก เครื่อง Latitude ยังเสนอทางเลือกให้กับธุรกิจในการใช้ประโยชน์สูงสุดจากเครื่องอ่านบัตรอัจฉริยะ FIPS 201 และเครื่องอ่านบัตรอัจฉริยะแบบไร้สัมผัสด้วย Control Vault 2 ™ FIPS 140-2 Level 3 certification นอกจากนี้ เครื่องแล็ปท็อปยังมาพร้อมกับ Intel Authenticate ซึ่งเป็นโซลูชันการพิสูจน์ตัวตนแบบหลายปัจจัย (multi-factor authentication) ที่จะตรวจสอบข้อมูลตัวตนในฮาร์ดแวร์เพื่อเสริมการป้องกันในระดับที่ต่ำกว่าระดับชั้นของซอฟต์แวร์ และขณะนี้ยังรวมถึงการรองรับระบบการจดจำใบหน้า (facial recognition) ด้วย วินโดว์ 10 อีกด้วย ทั้งนี้ Dell Latitudes ยังง่ายสำหรับไอทีในการปรับใช้ และจัดการกับชุดคำสั่ง Dell Client Command Suite เพื่อความสามารถด้านการปรับใช้และจัดการจากระยะไกล สำหรับผู้ที่ใ วินโดว์10 เดลล์ได้รวมเอา VMware Workspace ONE และ Dell Client Command Suite เพื่อการจัดการคลาวด์ของ Dell Commercial Client เฟิร์มแวร์, ไดร์เวอร์ต่างๆ ของเดลล์, วินโดว์ OS และแอพพลิเคชั่นจากคอนโซลระบบคลาวด์ VMware Workspace ONE ทั้งนี้ ลูกค้าของเดลล์ วินโดว์ 10 สามารถเลือกใช้ Microsoft AutoPilot สำหรับการใช้งานและการจัดการ ซึ่งเดลล์กำลังจัดส่งให้กับลูกค้าในขณะนี้ ซึ่งไม่มี OEM รายอื่นสามารถเสนอระดับความสามารถในการจัดการอุปกรณ์ของวินโดว์10 หรือระดับนี้ได้
เดสก์ท็อปจะยังคงมียอดขายเกือบครึ่งของพีซีเพื่อธุรกิจ (commercial PCs) ทั้งหมดที่ขายในปีนี้ และธุรกิจเดสก์ท็อปของเดลล์ที่ได้รับการสืบทอดมายาวนานถึง 25 ปี อีกทั้งจะยังคงมุ่งเน้นที่นวัตกรรมที่ประสบความสำเร็จมานาน OptiPlex นั้นมีการพัฒนาเพื่อมอบความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้นและนวัตกรรมในแง่ของฟอร์ม แฟกเตอร์ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของมืออาชีพที่ให้คุณค่ากับการขยายศักยภาพและขุมพลังของเดสก์ท็อป
เดลล์ได้แนะนำ OptiPlex All-in-Ones (AIO) ในตระกูลใหม่ที่ให้โซลูชันที่ทรงพลังในรูปลักษณ์การออกแบบที่ผสานเป็นหนึ่งเดียวและให้ความสง่างาม สายผลิตภัณฑ์ตระกูลดังกล่าวให้ประสิทธิภาพการทำงานระดับสูงด้วยโปรเซสเซอร์ 8th Gen Intel® Core™ vPro ให้หน่วยความจำ DDR4 สูงถึง 32GB พร้อมด้วยทางเลือกหน่วยความจำ Optane™ ของ Intel® ในการเรียกใช้แอปพลิเคชันพื้นฐานและไฟล์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ช่วยเพิ่มผลิตผลของงานสำคัญได้ ทั้งนี้ Pop-up webcam ยังช่วยปรับปรุงการทำงานร่วมกันของวิดีโอ กับกล้องอินฟาเรด หรือ full HD เพื่อสนับสนุนการ sign-on เพื่อใช้ Windows Hello และการทำวิดีโอคอล
สายผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ รวมถึง OptiPlex 7760 AIO ที่ให้ขุมพลัง InfinityEdge ในขนาด 27 นิ้ว พร้อมทางเลือกหน้าจอป้องกันแสงสะท้อน 4K Ultra HD พร้อม HDR และ High-Gamut sRGB หรือ Full HD IPS พร้อมหน้าจอสัมผัส และกราฟิกการ์ดรุ่นใหม่แยกการทำงาน และระบบตัดเสียงรอบข้าง (quad mic array) ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Waves Maxx เพื่อเสียงที่คมชัดแม้อยู่ในระยะไกลถึง 12 ฟุต OptiPlex 7460 AIO ให้จอแสดงผล InfinityEdge ขนาด 23.8 นิ้ว ที่ใช้พื้นที่น้อยลงมาก อีกทั้งยังให้พื้นที่จอเต็มประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีดิสเพลย์แบบ edge-to-edge Full HD IPS และทางเลือกพอร์ตการใช้งานที่หลากหลาย OptiPlex 5260 AIO ยังมีจอดิสเพลย์ขนาด 21.5 น้อว พร้อมทางเลือกระบบมัลติทัช 10 จุด เพื่อเพิ่มประสิทธิผลการทำงานยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ เดลล์ ยังได้ออก OptiPlex Tower ใหม่ ในฟอร์ม แฟกเตอร์ที่เล็ก และเป็นเดสก์ท็อปขนาดเล็ก (Micro desktops) ที่อัดแน่นด้วยขุมพลังโปรเซสเซอร์ 8th Gen Intel® Core™ และหน่วยความจำ DDR4 สูงถึง 64GB สำหรับคนทำงานที่มีความไดนามิค OptiPlex XE3 มีทั้งในรุ่นทาวเวอร์ และฟอร์ม แฟกเตอร์เล็ก โดยเป็นเดสก์ท็อประดับอุตสาหกรรมที่ให้ประสิทธิภาพระดับเอ็นเตอร์ไพร์ซ ผสานทั้งความน่าเชื่อถือและให้ความคงทนที่ตอบโจทย์การใช้งานในภาคอุตสาหกรรม อาทิ เฮลธ์แคร์ ค้าปลีก และภาคการผลิต อีกทั้งยังให้การออกแบบที่พร้อมสำหรับ OEM ทั้งนี้ XE3 ทนทานต่อการสั่นสะเทือนและแรงกระแทก และสามารถทำงานได้แม้ในสภาพอุณหภูมิ 0C – 45c° (113F°) และสภาพแวดล้อมที่สมบุกสมบั่นเป็นพิเศษ พร้อมทางเลือกฟิลเตอร์กรองฝุ่น OptiPlex 7060 และ 5060 รุ่นทาวเวอร์ ซึ่งเป็นฟอร์ม แฟกเตอร์ขนาดเล็ก และเป็นไมโคร เดสก์ท็อป ที่ให้ทางเลือกฮาร์ดไดร์ฟ และ SSD แบบจัดเต็ม มีกราฟฟิก AMD แบบเน็กซ์เจน หรือ NVIDIA อีกทั้งยังสามารถให้พลังการแสดงผลพร้อมกันถึง 3 หน้าจอ ท้ายสุดคือ OptiPlex 3060 ที่มาในรุ่นทาวเวอร์, ฟอร์ม แฟกเตอร์ขนาดเล็ก และไมโคร โดยเป็นระบบที่อัดแน่นด้วยหน่วยความจำ DDR4 32GB และทางเลือกที่ให้ความสามารถรอบด้าน
เดลล์ เผยโฉมมอนิเตอร์ P-series รุ่นใหม่ ที่ออกแบบมาโดยคำนึงถึงผลิตผลของงานเป็นหลัก เป็นจอที่มี panel บางและเล็กลง และมีทางเลือก USB-C พร้อมการออกแบบที่ช่วยเรื่องการจัดการสายเคเบิลได้ดียิ่งขึ้น ช่วยลดความยุ่งเหยิงของสายเคเบิล และช่วยให้โต๊ะทำงานมีพื้นที่โล่งมากยิ่งขึ้น ซึ่งฟีเจอร์ Easy Arrange ใน Dell Display Manager ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้แอปพลิเคชันพร้อมกันได้หลายแอพฯ ในคราเดียว นอกจากการจัดการแล้วจอ Bezel ขอบบางพิเศษที่นำมาต่อกันได้ 3 จอ (three-sided ultrathin bezel) ของรุ่นนี้ ยังให้ประสบการณ์การชมที่ไร้รอยต่อได้อย่างแท้จริงเวลาที่ทำงานบนจอมอนิเตอร์ต่อกันหลายตัว พร้อมกับการแสดงสีที่สอดคล้องกันทุกมุมมองอย่างแท้จริง ต้องขอบคุณมุมมองที่กว้าง 178°/178° ด้วยศักยภาพของเทคโนโลยี In-Plane Switching (IPS) อีกทั้งผู้ใช้งานสามารถเพิ่มผลิตผลของงานสูงขึ้นด้วยขาตั้งคู่แบบใหม่ MDS19 (Dual Monitor Stand) ของเดลล์ ที่ลงตัวอย่างเหมาะเจาะกับจอมอนิเตอร์ขนาด 27 นิ้ว ในพื้นที่จัดวางขนาดเล็ก
เพื่อเติมเต็มการนำเสนอผลิตภัณฑ์ต่างๆ พร้อมช่วยให้ลูกค้าได้รับประโยชน์สูงสุดจากการลงทุน เราจึงนำเสนอบริการติดตั้งเพื่อใช้งานพร้อมการสนับสนุนอย่างเต็มรูปแบบ ด้วย ProDeploy Client Suite จะมีทั้งผู้เชี่ยวชาญของเดลล์ และบรรดาคู่ค้า ที่มาดูแลเรื่องการติตดั้งใช้งานจริงตั้งแต่การบริหารจัดการโครงการ ตลอดจนการวางแผน การตั้งค่าและติดตั้งใช้งาน ซึ่ง ProDeploy/ProDeploy Plus ช่วยให้ลูกค้าใช้งานจริงได้เร็วขึ้นถึง 35 เปอร์เซ็นต์
ProSupport Client Suite ช่วยให้ผู้ใช้ได้ทั้งความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีที่จำเป็นสำหรับการเชื่อมต่อทั้งเครื่องพีซี และแท็ปเล็ต และให้ผลลัพธ์ที่ดี เทคโนโลยีชั้นนำในอุตสาหกรรมของเราที่ให้การคาดการณ์และหาแนวทางป้องกันก่อนเกิดปัญหาได้อย่างอัตโนมัติ รวมถึงทางเลือกในการตอบสนองอย่างยืดหยุ่น และช่องทางการสนับสนุนหลายช่องทาง ยังช่วยป้องกันดาวน์ไทม์ เพิ่มผลิตผลของงานทั้งในส่วนของไอทีและผู้ใช้ปลายทาง อีกทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่าย เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งหลัก Dell ProSupport Plus ที่มาพร้อมเทคโนโลยี SupportAssist ยังช่วยลดเวลาในการแก้ปัญหาฮาร์ดไดร์ฟล่มได้อย่างโดดเด่น ช่วยลดเวลาในการแก้ไขให้น้อยลงถึง 91 เปอร์เซ็นต์ และลดขั้นตอนในการแก้ปัญหาน้อยลงถึง 21 ขั้นตอนด้วยกัน
● Dell Latitude 5491 และ 5591 จะพร้อมวางตลาดทั่วโลกบน ในวันที่ 22 พฤษภาคม ● OptiPlex 7460, 7760 และ 5260 All-In-One จะพร้อมวางตลาดทั่วโลกบน ในวันที่ 22 พฤษภาคม● OptiPlex 3060, 5060, 7060 และ Small Form Factors และ Micros พร้อมวางตลาดทั่วโลกบน ในวันที่ 22 พฤษภาคม● OptiPlex XE3 Towers และ Small Form Factors จะพร้อมทำตลาดทั่วโลกบน ในวันที่ 22 เมษายน
• จอภาพ P-Series จะมีวางจำหน่ายทั่วโลกในวันที่ 25 มิถุนายน 2018 และรุ่น USB-C จะมีวางจำหน่ายทั่วโลกในวันที่ 23 กรกฎาคม 2018 ใน com และจะมี Dell Dual Monitor Stand (MDS19) ทั่วโลกใน เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2018
• เยี่ยมชมชุดข้อมูลสำหรับสื่อเพื่อข็อมูลเพิ่มเติมที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ได้ที่
ดูผลิตภัณฑ์ไคลเอ็นต์ใหม่ ๆ ที่น่าตื่นเต้นเหล่านี้และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้ที่งาน Dell Technologies World ที่ลาสเวกัส ระหว่างวันที่ 30 เมษายน ถึง 3 พฤษภาคม 2018 โดยในงาน Dell Technologies World จะมีการสาธิตให้เห็นถึงพลังของผู้นำด้านเทคโนโลยี 7 รายที่ให้คำมั่นสัญญาต่อการปฏิรูปของคุณ ทั้งหมดรวมอยู่ในที่เดียว ค้นพบแนวโน้มที่เกิดขึ้นใหม่ พร้อมเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีล่าสุดและพบปะกับผู้เชี่ยวชาญที่จะช่วยให้ทุกสิ่งเป็นจริงขึ้นได้
ด้วยรางวัลที่ได้รับทั้งในส่วนของเดสค์ท็อป แล็ปท็อป คอมพิวเตอร์แบบ 2-in-1 เครื่องธินไคลอันท์ เครื่องเวิร์คสเตชันที่ทรงพลัง และดีไวซ์ที่แข็งแรงทนทาน (rugged) ที่ผลิตขึ้นเพื่อสภาพการทำงานที่พิเศษโดยเฉพาะ ตลอดจนึงมอนิเตอร์ โซลูชันเพื่อการรักษาความปลอดภัยอุปกรณ์ปลายทาง และการบริการ เดลล์นำเสนอสิ่งที่คนทำงาน (workforce) ต้องการในการสร้างการเชื่อมต่อที่ปลอดภัย เพื่อการทำงานและการทำงานร่วมได้จากทุกที่ในทุกเวลา เดลล์เป็นส่วนหนึ่งของ Dell Technologies ที่มห้บริการลูกค้าในกลุ่มคอนซูเมอร์ไปจนถึงองค์กรทุกขนาดใน 180 ประเทศด้วยสายผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่สมบูรณ์ที่สุดในอุตสาหกรรมสำหรับผู้ใช้